USB (Universal Serial Bus) คือสายเชื่อมต่อที่เราพบเห็นแทบทุกวัน ไม่ว่าจะเสียบแฟลชไดรฟ์ ชาร์จมือถือ หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ USB กลายเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อที่ใช้งานง่าย สะดวก และรองรับกับอุปกรณ์หลากหลายประเภท
แต่รู้หรือไม่ว่า USB ไม่ได้มีแค่ “แบบเดียว” วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกว่า USB มีกี่แบบ กี่เวอร์ชัน และแต่ละแบบต่างกันอย่างไร
ประเภทของหัวสาย USB
สาย USB ถูกแบ่งออกตามลักษณะของ “หัวต่อ” ดังนี้:
1. USB Type-A
หัวเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่เราเห็นบ่อยที่สุด ใช้กับคอมพิวเตอร์ แฟลชไดรฟ์ เมาส์ คีย์บอร์ด ฯลฯ
2. USB Type-B
มักใช้กับเครื่องปริ้นเตอร์ หรือฮาร์ดดิสก์แบบต่อภายนอก
3. USB Mini
ขนาดเล็กกว่า Type-B ใช้กับกล้องดิจิทัลหรืออุปกรณ์เก่า
4. USB Micro
นิยมในมือถือ Android รุ่นเก่า ปัจจุบันเริ่มหายไป
5. USB Type-C
หัวแบบใหม่ที่บาง เสียบได้ทั้งสองด้าน ส่งข้อมูลเร็ว ชาร์จเร็ว นิยมในมือถือ โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์รุ่นใหม่
เวอร์ชันของ USB
USB แต่ละเวอร์ชันจะมีผลกับความเร็วในการรับส่งข้อมูล
เวอร์ชัน | ความเร็วสูงสุด | หมายเหตุ |
---|---|---|
USB 1.1 | 12 Mbps | รุ่นเก่า ใช้กับอุปกรณ์เล็กๆ |
USB 2.0 | 480 Mbps | ยังใช้งานได้ทั่วไป |
USB 3.0 | 5 Gbps | มีแถบสีฟ้าภายในพอร์ต |
USB 3.1 | 10 Gbps | เร็วกว่า 3.0 เท่าตัว |
USB 3.2 | สูงสุด 20 Gbps | ใช้กับ Type-C เป็นหลัก |
USB4 | สูงสุด 40 Gbps | เร็วสุดในตอนนี้ รองรับ Thunderbolt |
USB Type ≠ USB Version
อย่าสับสนระหว่าง “ประเภทหัวต่อ” กับ “เวอร์ชันของข้อมูล”
เช่น อุปกรณ์ที่ใช้หัว USB-C อาจใช้แค่เวอร์ชัน USB 2.0 ก็ได้ หากภายในไม่ได้รองรับความเร็วใหม่ ๆ
สรุป
-
หัว USB มีหลายแบบ ตั้งแต่ A, B, Mini, Micro ไปจนถึง C
-
เวอร์ชัน USB มีตั้งแต่ 1.1 ถึง USB4 ซึ่งต่างกันที่ความเร็ว
-
การใช้งานที่ดีควรเลือกทั้งหัวต่อและเวอร์ชันให้เหมาะกับอุปกรณ์
การรู้จักประเภทของสาย USB และเวอร์ชันที่ใช้ จะช่วยให้คุณเลือกใช้อุปกรณ์ได้อย่างคุ้มค่า ทั้งในแง่ของความเร็วและความเข้ากันได้