Gemini Nano คือโมเดล AI ขนาดเล็กที่สุดในตระกูล Gemini 1.0 ที่พัฒนาโดย Google ออกแบบมาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต จุดเด่นคือสามารถทำงานบนอุปกรณ์ได้โดยตรง โดยไม่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้นและปลอดภัยต่อข้อมูลผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
จุดเด่นของ Gemini Nano
-
ทำงานแบบ On-device AI
Gemini Nano ประมวลผลข้อมูลภายในเครื่องผ่านระบบ AICore บน Android 14 ทำให้ข้อมูลผู้ใช้ไม่ถูกส่งออกนอกอุปกรณ์ เพิ่มความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น -
ประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน
ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับชิปบนสมาร์ทโฟน เช่น Pixel 8 Pro และ Samsung S24 Series สามารถใช้งาน AI ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่เปลืองแบตเตอรี่ -
รองรับฟีเจอร์ AI หลากหลาย
เช่น การสรุปเนื้อหา การตอบกลับอัจฉริยะ (Smart Reply), การเขียนใหม่ (Rephrasing) และการตรวจสอบข้อความ (Proofreading) -
เปิดให้ใช้งานสำหรับนักพัฒนา
นักพัฒนาสามารถเข้าถึง Gemini Nano ผ่าน AICore API หรือ Google AI Edge SDK เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ AI ให้แอปพลิเคชันของตนเองได้ง่ายขึ้น
Gemini Nano อยู่ตรงไหนในโมเดลตระกูล Gemini?
Google เปิดตัว Gemini 1.0 พร้อมกัน 3 รุ่น:
-
Gemini Ultra – โมเดลขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับงานขั้นสูง
-
Gemini Pro – โมเดลระดับกลาง รองรับงานทั่วไป
-
Gemini Nano – โมเดลขนาดเล็กที่สุด สำหรับอุปกรณ์พกพาและการใช้งานบนเครื่อง
การใช้งานจริงของ Gemini Nano
Gemini Nano ถูกนำไปใช้จริงใน Google Pixel 8 Pro เพื่อเสริมความสามารถ AI เช่น:
-
การแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ
-
การจัดเรียงภาพในแกลเลอรี
-
การช่วยตอบข้อความอัตโนมัติ
นอกจากนี้ Google ยังเริ่มเปิดให้นักพัฒนาใช้งาน Gemini Nano แบบ on-device กับอุปกรณ์ในตระกูล Pixel 9 (สถานะทดลอง) เพื่อเสริมประสบการณ์ AI แบบไร้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
สรุป
Gemini Nano คือคำตอบของ Google สำหรับการนำ AI มาใช้งานบนอุปกรณ์พกพาอย่างแท้จริง ด้วยขนาดที่เล็ก ประสิทธิภาพสูง และความสามารถในการประมวลผลบนเครื่องโดยตรง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ โดยไม่ต้องแลกมากับความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว