VPN หรือชื่อเต็มว่า Virtual Private Network คือเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างเครือข่ายส่วนตัวบนเครือข่ายสาธารณะอย่างอินเทอร์เน็ต พูดง่ายๆ คือมันทำหน้าที่เป็น “อุโมงค์” ที่เข้ารหัสข้อมูลของคุณ ให้ส่งผ่านไปยังปลายทางอย่างปลอดภัย ป้องกันการถูกดักฟังหรือแฮ็กระหว่างทาง
VPN ทำงานอย่างไร?
เมื่อคุณเชื่อมต่อ VPN อุปกรณ์ของคุณจะส่งข้อมูลผ่านเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ VPN ก่อนจะไปถึงเว็บไซต์หรือปลายทางที่คุณต้องการ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเข้ารหัสในระหว่างทาง ทำให้บุคคลที่สามไม่สามารถสอดแนมกิจกรรมของคุณได้
ข้อดีของการใช้ VPN
-
เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ขณะใช้อินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi สาธารณะ
-
หลีกเลี่ยงการถูกติดตาม จากโฆษณา เว็บไซต์ หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
-
ปลดล็อกคอนเทนต์ ที่ถูกจำกัดในบางประเทศ เช่น การดู Netflix หรือ YouTube ต่างประเทศ
-
เข้าถึงเว็บไซต์ภายในองค์กร จากระยะไกลอย่างปลอดภัย เหมาะสำหรับการทำงานจากที่บ้าน
ประเภทของ VPN
-
Remote Access VPN – ใช้งานสำหรับบุคคลทั่วไปในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายส่วนตัวผ่านอินเทอร์เน็ต
-
Site-to-Site VPN – ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายของหลายสาขาเข้าด้วยกัน
VPN เหมาะกับใคร?
-
ผู้ใช้ทั่วไปที่ห่วงเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
-
นักเรียน/พนักงานที่ต้องการเข้าระบบของมหาวิทยาลัยหรือบริษัทจากภายนอก
-
คนที่อยากเข้าถึงเนื้อหาต่างประเทศหรือเลี่ยงการถูกบล็อกเนื้อหา
VPN ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษ
แม้ VPN จะมีประโยชน์มาก แต่ก็ไม่ใช่เครื่องมือที่ทำให้คุณ “ล่องหน” บนโลกออนไลน์ 100% ควรใช้งานร่วมกับมาตรการด้านความปลอดภัยอื่นๆ เช่น การใช้รหัสผ่านที่แข็งแรง และการระวังฟิชชิ่ง
สรุปแล้ว VPN คือเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในยุคนี้ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ปลอดภัย และอิสระในการเข้าถึงข้อมูลจากทั่วโลกอย่างไม่ถูกจำกัด